Sawadeekha!!! , How are you today? For all Thai friends in America and Thailand. I am Coach Nok, and I am so happy to be part of “the Sawadee USA Family.” I so appreciate this opportunity. First of all, I would like to introduce myself to all of you so you can learn much more about me.
My name is Nok, and I am 42 years old. I lived in America for over 20 years before becoming a gym trainer. I learned and practiced it for a long time. Let’s start my story.
I graduated from Thailand with a bachelor’s degree in business management. Upon graduation, I applied for a visa and moved to America. I still remember the feelings that I had. I was very excited to learn about the new things and new life here. I studied English for 6 months while waiting for my green card, social security number, and driver’s license. Once those were done, I started my first job here in a restaurant. It was hard work, and of course, I had to have a lot of patience with the customers. I finally realized that this job was not suitable for me. I decided to change my job to a nursery, to take care of preschoolers. Did you know that the income for this job is quite high in America? But I still felt bored with this. I asked myself, What do I really want to do that can make me happy and is not boring for me? I found that I have always liked taking care of myself for both health and beauty. I went to register for a cosmetology program. Oh my goodness! At first, I thought this program was easy, but I was wrong. It was very challenging. Thai people like us will not give up very easily. Finally, I got a cosmetology license. Afterward, I started to work full-time as a cosmetologist.
Right now everyone that has read up to this paragraph might have a question. How was I able to become a trainer, and health coach???
Author by FunFitFirmForever
Okay! Let’s find out. I was a single child and always had a problem with being overweight. At 15–16 years old, when I started to study at a commercial technology college, there were a lot of beautiful girls. I was not confident because I just wanted to be beautiful like them. Some of my friends in college bullied me about my body shape and my skin color. Those friends told me, “I should not walk and be rolling on the ground instead.” This made me ashamed, and it hurt my feelings. But it also made me motivated to diet and take care of myself. I wanted to lose weight first, so I started to swim three hours per day and started a healthy diet. Sometimes, I would do aerobic dancing. I kept telling myself I could make it. My weight went from 75 kg to 47 kg within three months. I went from a bullied girl to a hot girl. I have continued to exercise until now. I moved to the USA and started to work out in different ways, such as going to the gym, hiking, and many indoor-outdoor activities. I became a very active person. I am very happy with all of the things I have done. I always posted all my activities on Facebook, like hiking and healthy food. I tried to do weight training to make my body look a bit more muscular because, during that time, I had a slim and flat body. Because I am a friendly person, I tried to look for friends who were trainers. They loved to teach me more, and I learned about new things and different exercise forms and techniques. I took advantage of other people’s knowledge and incorporated their ideas into my training skills. All of my friends wanted me to teach them how to work out, but I did not feel confident. I just kept learning more techniques and went to many classes. I finally decided to train and teach others. I was very happy to see all of my students become successful at the same time.
This column is named “The Healthy Investment.” Why? Just think about it! If we want to have a healthy body and mind, we need to make an investment in ourselves. If you want to run for good health, you need to make an investment in energy, mind, nice sneakers, and nice meals with complete nutrition. If you want to go to a gym to get healthier, you need to make an investment in fitness costs, sneakers, sports clothing, and whey protein. All of this is an investment, and it is the best investment ever. Good health comes with many rewards, like a longer life, good shape, and a younger appearance.
For the next column, I have some main topics that I would like to talk about. Having an eating plan for each day, self-cooking, how to choose healthy food, and how to choose food when you are eating out. Also, a workout program that you can do for your whole life and be happy with. I have many workout programs to share, both in the gym and outdoor exercises such as swimming, climbing, and hiking. I will talk about how to have a work-life balance to keep work, food, and fitness in your daily life. Focus the right way, and I am sure that you will get a healthy life and better shape in the perfect way.
Last but not least, to all of you who live in Thailand and America: If you have any suggestions or questions, or want to know about all of the exercise programs and nice places for hiking, please feel free to ask me, and I will be happy to answer you.
Author by FunFitFirmForever
สวัสดีทุกท่านทั้งที่อยู่ที่อเมริกา และที่ไทยนะคะ วันนี้โค้ชนกรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว “สวัสดียูเอสเอ” วันนี้ถือฤกษ์งามยามดี ขอแนะนำตัวกับท่านผู้อ่านและผู้ติดตามทุก ๆ ท่านให้ได้รู้จักกับโค้ชนก เพิ่มมากขึ้นกันนะคะ
โค้ชนก ปัจจุบันอายุ 42 ปี อาศัยอยู่ที่อเมริกามามากกว่า 20 ปีแล้วค่ะ ก่อนที่จะได้มาทำอาชีพเทรนเนอร์สอนออกกำลังกาย สอนดูแลสุขภาพ และดูแลโภชนาการอย่างในปัจจุบัน ก็ใช้เวลายาวนานมากในการฝึกฝนและเรียนรู้ค่ะ
โค้ชนก จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เอกการบริหารธุรกิจ จากประเทศไทยค่ะ พอเรียนจบ ก็ดำเนินเรื่องวีซ่าและเดินทางมาแต่งงานที่อเมริกาเลยค่ะ ซึ่งโค้ชนกยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ ทุกอย่างดูแปลกตาไปหมด พอมาที่นี่ก็ได้ใช้เวลาว่างในการเรียนภาษาเพิ่มเติม โดยใช้เวลาประมาณ 6 เดือน รวมถึงรอใบทำงาน เลขที่ผู้เสียภาษี และดำเนินการสอบใบขับขี่รถยนต์ให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ได้เริ่มงานแรกค่ะ งานแรกที่ได้ทำก็จะเหมือนกับคนไทยหลาย ๆ คนที่มาอยู่ที่อเมริกาค่ะ คือการเริ่มทำงานในร้านอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่การทำงานในร้านอาหารนี้ งานจะค่อนข้างหนักมาก แต่เราก็ต้องสู้ค่ะ เมื่อทำไปได้สักพักก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเรา เราน่าจะเหมาะกับสายงานอื่นมากกว่า เลยลองเปลี่ยนงานไปทำที่เนอสเซอรี่ของค่ายทหาร โดยงานที่ทำจะเป็นการดูแลเด็กเล็กก่อนวัยเรียน ซึ่งได้รายได้ค่อนข้างดีทีเดียวค่ะ แต่เมื่อทำไปสักพักก็รู้สึกถึงความเบื่อที่ได้กลับมาเยือนเราอีกครั้ง โค้ชนกเลยมานั่งถามตัวเองว่า “จริง ๆ แล้วเราชอบอะไร แล้วอะไรที่ทำแล้ว เราจะมีความสุขไปกับมัน และไม่เบื่อ” เลยได้ค้นพบว่าจริงๆแล้วตัวเองเป็นคนรักสวยรักงาม ชอบดูแลสุขภาพ และอยากทำให้ตัวเองมีบุคลิกภาพที่ดี เลยตัดสินใจไปลงทะเบียนเรียนโปรแกรม Cosmetologyค่ะ โอ้มายก๊อดดดด ตอนแรกคิดว่าจะง่ายแต่จริง ๆแล้ว ไม่ง่ายเลยค่ะ หนักหนาเอาการเลยกว่าจะเรียนจบ พอเรียนจบแล้วก็ไปสอบเอาใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งแน่นอนว่าคนไทยอย่างเราไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ ในที่สุดก็สอบได้ใบประกอบวิชาชีพมาครอบครองได้สมใจ แล้วจึงเริ่มทำงานทางด้านความสวยความงามมาตลอดค่ะ
หลายคนพออ่านมาถึงตอนนี้ คงมีคำถามแล้วว่า แล้วโค้ชนกมาเป็นโค้ชสอนออกกำลังกายดูแลสุขภาพ ดูแลโภชนาการได้ยังไง ?? ขอเล่าประวัติ ความหลังฝังใจให้ฟังกันก่อนนะคะ
โค้ชนก เป็นลูกคนเดียวแล้วก็อ้วนมาตั้งแต่เด็ก ๆ พอเริ่มเข้าวัยสาวอายุ 15~16 ปีได้ ก็เข้าเรียนที่เทคนิคพาณิชยการ ซึ่งที่นั่นมีแต่คนสวยๆ หุ่นดีกันทั้งนั้นเลยค่ะ เราก็เลยรู้สึกกดดันอยากสวยอยากหุ่นดีแบบเพื่อน ๆ บ้าง และเราก็โดนคนล้อเรื่อง อ้วน ดำ เตี้ย มาตลอด ถึงขนาดมีคนบอกว่า “ไม่ต้องเดินหรอก กลิ้งไปเลย” ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกอับอาย และเจ็บใจมาก ก็เลยเก็บเอามาเป็นแรงผลักดันในการลดน้ำหนัก และสิ่งแรกที่เริ่มทำเลยคือ ทุก ๆ วันโค้ชนกจะไปว่ายน้ำวันละ 3 ชั่วโมง และดูแลเรื่องอาหาร วันไหนมีเวลาเยอะหน่อยก็จะไปเต้นแอโรบิคที่สวนสาธารณะ ทำให้จากน้ำหนักที่มากถึง 75 กิโล ลดลงมาที่อยู่ที่ 47 กิโล ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน จากคนขี้เหร่ก็กลายเป็นสาวฮอทขึ้นมาทันตาเลยค่ะ ฮ่า ๆๆ … ซึ่งหลังจากนี้โค้ชนกก็ออกกำลังกายมาตลอดจนถึงปัจจุบันค่ะ
พอได้มาอยู่อเมริกาก็เริ่ม เข้าฟิตเนส เริ่มไปปีนเขา และเล่นกีฬาทางน้ำ indoor-outdoor Activities ลองหมด คือกลายเป็นคนที่แอ๊คทีฟมาก และการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งที่โค้ชนกทำแล้วมีความสุขมาก ทุกท่านสามารถเข้าไปดูกิจกรรมต่าง ๆ ที่โค้ชนกเข้าร่วม ทั้งการปีนเขา การออกกำลังกายต่าง ๆ ได้ใน Facebook ของโค้ชนกนะคะ แล้ววันนึงก็มาถึงจุดที่อยากลองเล่นเวท อยากลองยกน้ำหนักดู อยากลองปั้นหุ่นให้มีทรวดทรงที่สวยงาม มีกล้ามพอกรุบกริบ เพราะหุ่นตอนนั้นคือยังไม่มีทรวดทรงค่ะ ลีบๆ แบนๆ และนั่นคือจุดเริ่มต้น เริ่มมีการลองผิดลองถูก หาเพื่อนที่เป็นเทรนเนอร์ พอดีโค้ชนกเป็นคนน่ารักเพื่อน ๆ เลยชอบสอนให้ ฮ่า ๆๆ โค้ชนกก็เลยได้เรียนรู้ ได้เข้าคลาสต่างๆ เพื่อศึกษาเรื่องท่าออกกำลังกาย ศึกษาในเรื่องโภชนาการ และเอามาทดลองกับตัวเอง จนหุ่นเริ่มเปลี่ยนไปตามที่ต้องการ เลยมีเพื่อน ๆ หลายคนสนใจอยากให้สอน แต่ตอนนั้นโค้ชนกยังไม่มั่นใจในตัวเอง เลยยังไม่กล้าเปิดสอนค่ะ จึงหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เข้าคลาส อยู่สักพักใหญ่ ๆ จนมั่นใจแล้ว จึงเริ่มเปิดตัวเป็นเทรนเนอร์ค่ะ จนถึงตอนนี้โค้ชนกมีความสุขมากที่เห็นนักเรียนประสบความสำเร็จ ส่วนงานทางด้านความสวยความงามก็ทำควบคู่กันไปด้วยค่ะ
ในบทความนี้ โค้ชนกใช้ชื่อคอลัมน์ว่า Healthy Investment: แปลว่า “การลงทุนเพื่อสุขภาพ” ซึ่งมีนัยยะสำคัญนะคะ คุณผู้อ่านลองคิดตามดูนะคะ การที่เราจะมีสุขภาพดี ทั้งร่างกายและจิตใจ เราจำเป็นต้องลงทุนและลงแรง ซึ่งสิ่งที่จะได้รับกลับคืนมาก็คือสุขภาพดีที่และยั่งยืน ลองนึกภาพดูนะคะว่าเราต้องลงทุนอย่างไรบ้าง ? ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราชอบวิ่ง เราอยากมีปอดและหัวใจที่แข็งแรง สิ่งที่เราต้องลงทุนอย่างแรกเลยคือ แรงกายและจิตใจ ต่อมาก็รองเท้าดี ๆ สักคู่ ตบท้ายด้วยอาหารดี ๆ สักมื้อ ไม่ต้องเลิศหรูแค่ให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนเป็นใช้ได้ค่ะ หรืออีกตัวอย่างนึง อยากสุขภาพดีด้วยการไปฟิตเนส เราก็ต้องลงทุน ค่าฟิตเนสรายเดือน รองเท้า ชุดออกกำลังกาย แถมยังมีพวกอาหารเสริม เช่น เวย์โปรตีนต่าง ๆ เห็นไหมคะทุกอย่าง มันคือการลงทุน การลงทุนเพื่อสุขภาพ มันเป็นการลงทุนที่สุดยอดมากค่ะ เราจะมีแต่ได้กำไร ได้ทั้งสุขภาพที่ดี และหุ่นที่สวยงาม ฉะนั้นโค้ชนกอยากให้ทุกท่านเริ่มต้นหันมาดูแลตัวเอง ลงทุนเพื่อสุขภาพดี ๆ ที่ยั่งยืนกันค่ะ นอกจากหุ่นสวย สุขภาพดีแล้ว ของแถมที่ได้มาคือ ความอ่อนกว่าวัยค่ะ ใคร ๆ ก็จะทายอายุเราไม่ถูก หน้าอ่อนกว่าวัย อายุมันก็เป็นแค่ตัวเลขเท่านั้นค่ะ อย่าลืมนะคะว่าสุขภาพสำคัญที่สุดค่ะ
สำหรับคอลัมน์ในครั้งต่อไปนะคะโค้ชนกจะมาบอกถึงวิธีการต่าง ๆ ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในการออกกำลังกาย และปั้นหุ่นอย่างไรให้ได้อย่างที่เราต้องการและควบคู่ไปกับการมีสุขภาพดี เช่น ในแต่ละวันจะมีโปรแกรมการทานอย่างไรบ้าง , การทำอาหารรับประทานเอง , การเลือกซื้ออาหาร และเวลาออกไปทานนอกบ้านมีวิธีการเลือกอย่างไร รวมไปถึง โปรแกรมการออกกำลังกายที่โค้ชนกเน้นว่าทำได้ตลอดชีพ และมีความสุขกับการออกกำลังกาย ซึ่งมีหลายรูปแบบ โค้ชนกเอง ออกทั้งในฟิตเนส, ว่ายน้ำ, ปีนเขา และเดินไกล ซึ่งเราจะมาพูดโดยรวม ๆ ว่าใช้ชีวิตอย่างไรให้มันบาลานซ์ ทั้งเรื่องการทำงาน เรื่องการทานอาหาร และการออกกำลังกาย ซึ่งเราสามารถจัดสรรแบ่งเวลาได้ค่ะ โฟกัสให้ถูกที่ มีสุขภาพดีแน่นอน ส่วนหุ่นดีนั้นคือของแถมค่ะ
ท่านผู้อ่านท่านใดที่อยู่ที่เมืองไทยหรืออเมริกาก็ตาม หากมีข้อสงสัยหรือมีคำถาม จะเริ่มต้นยังไง หรือดูแลเรื่องอาหารการกินอย่างไร หรืออยากทราบโปรแกรมการออกกำลังกายต่าง ๆ รวมไปถึงสถานที่เทรลปีนเขาสวย ๆ สอบถามกันมาได้เลยค่ะ ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ